เด็กชายคนนี้มีนามว่าเสี้ยวเจิ้ง
เมื่อตอนเค้ายังเดิน เค้าเล่นอยู่กับเพื่อนๆที่หน้าบ้าน
ระหว่างนั้นอยู่ๆก็มีชายหนุ่มเดินเข้ามาทำความรู้จักกับเค้าและเพื่อนๆ
หลังจากคุยกันไปคุนกันมา ชายหนุ่มคนนี้ก็หลอกเสี้ยวเจิ้งไปกับเค้าด้วย
หลังจากวันนั้นเสี้ยวเจินก็ได้ไปอยู่กับครอบครัวใหม่และดูแลเค้าเป็นอย่างดีราวกับลูกในไส้
แต่ตัวเสี้ยวเจินเองคิดอยู่ตลอดเวลาว่าอยากกลับไปหาพ่อแม่ที่แท้จริงของเค้า
เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เค้าโตเป็นหนุ่มและสามารถหาเงินเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว
เค้าจึงไม่รีรอที่จะไปแจ้งที่สถานีตำรวจเพื่อช่วยหาเบาะแสครอบครัวที่แท้จริงของเค้า
ตำรวจได้ทำการเก็บเลือดของเค้าเพื่อไปตรวจสอบดีเอ็นเอ
และพยายามช่วยค้นหาข้อมูลแฟ้มคดีแจ้งความเด็กหายเมื่อ 18 ปีที่แล้ว หลังจากที่ผลดีเอ็นเอออก
ทางตำรวจจึงรีบนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของคนที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นพ่อแม่ของเสี้ยวเจิ้ง จากนั้นไม่นานตำรวจก็ได้หาครอบครัวของเค้าจนพบ
และนัดมาเจอกัน
ครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายได้เจอกัน ทั้งพ่อและแม่ของเค้าก็จำได้ในทันที ว่านี้แหละคือลูกชายที่โดนลักพาตัวไปเมื่อ 18 ปีก่อน พร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
ครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายได้เจอกัน ทั้งพ่อและแม่ของเค้าก็จำได้ในทันที ว่านี้แหละคือลูกชายที่โดนลักพาตัวไปเมื่อ 18 ปีก่อน พร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
พ่อของเค้าจับแขนเสื้อดึงขึ้น
และก็ได้เห็นไฝที่เป็นหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นลูกของเค้าจริงๆ ทุกคนตื่นเต้นดีใจมาก
บรรดาญาติกล่าวว่า
ตั้งแต่เสี้ยวเจิ้งโดนลักพาตัวไป พ่อแม่ของเค้าก็ไม่เป็นอันกินอันนอน
กลายเป็นโรคซึมเศร้า เพราะคิดถึงลูกชาย พยายามตามหาแต่ก็หาไม่เจอ
เสี้ยงเจิ้งบอกกับพ่อแม่เค้าว่าครอบครัวปัจจุบันที่รับเลี้ยงเค้า
ดูแลเค้าดีมากตลอด 18 ปีที่ผ่านมา
เสี้ยวเจิ้งโดนนักข่าวถามว่าเค้าจะย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของเค้าไหม
เค้าตอบว่าเค้าก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย เพราะไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง
เค้าได้พบกับครอบครัวและพ่อแม่ที่แท้จริงของเค้า เค้าก็ดีใจจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว
เป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น
ครอบครัวของเสี้ยวเจิ้งช่างโชคดีเหมือนปาฏิหาริย์ ! หวังว่าเรื่องราวการลักพาตัวจะไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก
!
ที่มา : Gooclup
ที่มา : Gooclup
ไม่มีความคิดเห็น: