มือและนิ้วมือของเรานั้นถือเป็นอวัยวะสำคัญที่เราต้องใช้งานทุกวัน
แล้วหากอยู่ดีๆ มันเกิดขยับไม่ได้ขึ้นมาล่ะ คุณจะทำอย่างไร
มีใครเคยสงสัยบ้างมั้ยคะว่าการที่นิ้วของเราเกิดงอไม่ได้ กระดิกไม่ได้ขึ้นมา
แถมตึงและเจ็บมากนั้นเกิดจากอะไร โดยภาวะเช่นนี้มักรู้จักกันดีว่าคืออาการของโรคนิ้วล็อก
แต่จะเป็นอย่างไรนั้นลองมาทำความรู้จักกับโรคนิ้วล็อคนี้กัน
นิ้วล็อกคืออะไร
นิ้วล็อก (Trigger finger) คือ อาการของนิ้วมือที่เมื่อกำหรืองอแล้วไม่สามารถเหยียดขึ้นเองได้ จึงเรียกลักษณะอาการเช่นนี้ว่านิ้วล็อก เป็นโรคที่สามารถพบได้บ่อยมากที่สุดโรคหนึ่งในคนทั่วไป โดยเฉพาะในคนที่ใช้มือจับสิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆ บ่อยๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โรคนิ้วล็อคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อหรืออันตราย แต่เมื่อเกิดขึ้นกับผู้ใดแล้วมักจะสร้างความรำคาญใจ เนื่องจากใช้มือได้ไม่ถนัดและเจ็บปวดบริเวณที่เป็น ส่วนใหญ่มักพบในช่วงวัยกลางคนโดยเฉพาะในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย (อัตราส่วน 2 : 6) โดยเฉพาะช่วงอายุระหว่าง 40 – 50 ปี
นิ้วล็อก (Trigger finger) คือ อาการของนิ้วมือที่เมื่อกำหรืองอแล้วไม่สามารถเหยียดขึ้นเองได้ จึงเรียกลักษณะอาการเช่นนี้ว่านิ้วล็อก เป็นโรคที่สามารถพบได้บ่อยมากที่สุดโรคหนึ่งในคนทั่วไป โดยเฉพาะในคนที่ใช้มือจับสิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆ บ่อยๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โรคนิ้วล็อคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อหรืออันตราย แต่เมื่อเกิดขึ้นกับผู้ใดแล้วมักจะสร้างความรำคาญใจ เนื่องจากใช้มือได้ไม่ถนัดและเจ็บปวดบริเวณที่เป็น ส่วนใหญ่มักพบในช่วงวัยกลางคนโดยเฉพาะในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย (อัตราส่วน 2 : 6) โดยเฉพาะช่วงอายุระหว่าง 40 – 50 ปี
ลักษณะการเกิดอาการนิ้วล็อก
สาเหตุของโรคนิ้วล็อก
สาเหตุนั้นมักเกิดจากผู้ที่ใช้งานมือในท่าซ้ำๆ มากเกินไป เช่น หิ้วของหนัก การทำงานบ้าน ทำสวน ขุดดิน เล่นดนตรีอย่างไวโอลิน เล่นกอล์ฟ เทนนิส หรือพิมพ์งาน รวมทั้งผู้ป่วยเบาหวาน โรคข้อรูมาตอยด์ เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้เกิดภาวะนิ้วล็อคได้ทั้งสิ้น
สาเหตุนั้นมักเกิดจากผู้ที่ใช้งานมือในท่าซ้ำๆ มากเกินไป เช่น หิ้วของหนัก การทำงานบ้าน ทำสวน ขุดดิน เล่นดนตรีอย่างไวโอลิน เล่นกอล์ฟ เทนนิส หรือพิมพ์งาน รวมทั้งผู้ป่วยเบาหวาน โรคข้อรูมาตอยด์ เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้เกิดภาวะนิ้วล็อคได้ทั้งสิ้น
โดยเมื่อเราใช้งานนิ้วมือเช่นนี้บ่อยๆ เข้า
จะทำให้เส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็นของการงอข้อนิ้วมือเกิดการอักเสบ
ทำให้เส้นเอ็นมีการหนาตัวขึ้นติดขัดในการเคลื่อนไหวเมื่อทำการเหยียดนิ้ว
ยิ่งเมื่อพยายามออกแรงต้านมากเท่าไรก็จะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงยิ่งขึ้น
นิ้วล็อก เกิดการใช้นิ้วทำกิจกรรมเดิมๆ ซ้ำๆ |
อาการของผู้ที่เป็นนิ้วล็อค
สำหรับผู้ที่เป็นนิ้วล็อกขั้นแรกจะเริ่มรู้สึกเจ็บบริเวณโคนนิ้วด้านฝ่ามือก่อน ต่อมารู้สึกนิ้วขัดไม่ถนัดติดขัดเวลากำมือแต่สักพักก็จะสามารถเหยียดออกได้เอง และในบางคนก็อาจได้ยินเสียงกิ๊กเมื่องอนิ้วมือแล้วเหยียด ต่อมามักจะเหยียดขึ้นเองไม่ได้ต้องใช้นิ้วมืออีกข้างหนึ่งช่วยเหยียดออกแทน และเมื่อเป็นหนักโดยไม่ทำการรักษาสุดท้ายนิ้วมือจะติดแข็งล็อคอยู่ในท่างอไม่สามารถเหยียดออกได้
สำหรับผู้ที่เป็นนิ้วล็อกขั้นแรกจะเริ่มรู้สึกเจ็บบริเวณโคนนิ้วด้านฝ่ามือก่อน ต่อมารู้สึกนิ้วขัดไม่ถนัดติดขัดเวลากำมือแต่สักพักก็จะสามารถเหยียดออกได้เอง และในบางคนก็อาจได้ยินเสียงกิ๊กเมื่องอนิ้วมือแล้วเหยียด ต่อมามักจะเหยียดขึ้นเองไม่ได้ต้องใช้นิ้วมืออีกข้างหนึ่งช่วยเหยียดออกแทน และเมื่อเป็นหนักโดยไม่ทำการรักษาสุดท้ายนิ้วมือจะติดแข็งล็อคอยู่ในท่างอไม่สามารถเหยียดออกได้
ลักษณะภายในของมือที่เกิดอาการนิ้วล็อก |
การรักษานิ้วล็อกในเบื้องต้น
- พยายามอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับนิ้วมือ จะทำให้เส้นเอ็นไม่เกิดการอักเสบหรือบวมมากขึ้น
- แช่น้ำอุ่นจัดๆ ในช่วงเช้า และบริหารกล้ามเนื้อมือเบาๆ โดยการกำมือในน้ำสักครู่
- ใช้ฟองน้ำหรือผ้านุ่มๆ พันรอบข้อมือขณะจับสิ่งของเพื่อลดแรงเสียดสีลง
- พยายามอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับนิ้วมือ จะทำให้เส้นเอ็นไม่เกิดการอักเสบหรือบวมมากขึ้น
- แช่น้ำอุ่นจัดๆ ในช่วงเช้า และบริหารกล้ามเนื้อมือเบาๆ โดยการกำมือในน้ำสักครู่
- ใช้ฟองน้ำหรือผ้านุ่มๆ พันรอบข้อมือขณะจับสิ่งของเพื่อลดแรงเสียดสีลง
การรักษานิ้วล็อกกับแพทย์
- ขั้นแรกอาจให้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ก่อนเพื่อบรรเทาอาการปวดและอักเสบ
- มีการทำกายภาพบำบัดที่นิ้วมือและข้อมือ
- ฉีดยาสเตียรอยด์บริเวณเส้นเอ็นที่อักเสบ โดยมากมักจะได้ผลในกรณีที่เกิดอาการใหม่ๆ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมที่สุด
- ใช้เครื่องมือแพทย์ทำการสะกิดพังผืดที่หนาตัวออกโดยใช้ยาชาและเจาะรูเล็กๆ บริเวณข้อมือที่เป็น
- หากรักษาในเบื้องต้นเหล่านี้ไม่หายแพทย์ก็จะทำการผ่าตัด เพื่อตัดปลอกหุ้มเอ็นที่หนาตัวและรัดเส้นเอ็นอยู่ ใช้เวลาประมาณ 10 – 14 วันในการรักษาแผลผ่าตัด
- ขั้นแรกอาจให้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ก่อนเพื่อบรรเทาอาการปวดและอักเสบ
- มีการทำกายภาพบำบัดที่นิ้วมือและข้อมือ
- ฉีดยาสเตียรอยด์บริเวณเส้นเอ็นที่อักเสบ โดยมากมักจะได้ผลในกรณีที่เกิดอาการใหม่ๆ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมที่สุด
- ใช้เครื่องมือแพทย์ทำการสะกิดพังผืดที่หนาตัวออกโดยใช้ยาชาและเจาะรูเล็กๆ บริเวณข้อมือที่เป็น
- หากรักษาในเบื้องต้นเหล่านี้ไม่หายแพทย์ก็จะทำการผ่าตัด เพื่อตัดปลอกหุ้มเอ็นที่หนาตัวและรัดเส้นเอ็นอยู่ ใช้เวลาประมาณ 10 – 14 วันในการรักษาแผลผ่าตัด
การักษานิ้วล็อคด้วยการผ่าตัด |
การป้องกันโรคนิ้วล็อก
สำหรับการป้องกันไม่ให้เกิดนิ้วล็อกนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้มือหยิบจับสิ่งของหรือหิ้วของหนักๆ บ่อยๆ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจใช้เครื่องทุ่นแรงอย่างรถเข็นช่วย หรือการซักผ้าก็อาจใช้เครื่องซักผ้าแทนนิ้วมือ หรือการสวมถุงมือเพื่อลดแรงเสียดสีเวลาทำงานบ้านต่างๆ เป็นต้น
สำหรับการป้องกันไม่ให้เกิดนิ้วล็อกนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้มือหยิบจับสิ่งของหรือหิ้วของหนักๆ บ่อยๆ อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจใช้เครื่องทุ่นแรงอย่างรถเข็นช่วย หรือการซักผ้าก็อาจใช้เครื่องซักผ้าแทนนิ้วมือ หรือการสวมถุงมือเพื่อลดแรงเสียดสีเวลาทำงานบ้านต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ควรพักผ่อนนิ้วมือโดยการหมั่นบริหารนิ้วมือบ้างในยามว่างด้วยตนเอง
เช่นการนวดหรือกำมือ-แบมือแบบหลวมๆ
ก็เป็นวิธีการป้องกันการเกิดนิ้วล็อคได้อย่างหนึ่งด้วยตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น: