ผู้ช่วยศาสตราจารย์จัสติน เบอร์ตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพของภูเขาน้ำแข็งจากมหาวิทยาลัยเอโมรี
รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา กล่าวเตือนอันตรายอันเกิดจากภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ละลายเพราะภาวะโลกร้อนจนสามารถพลิกตัว
90 องศาได้
และก่อให้เกิดพลังมากพอที่จะสร้างความเสียหายได้มหาศาลกับพื้นที่ใกล้เคียงเท่ากับระเบิดทีเอ็นทีหนัก
40 กิโลตัน
การพลิกของภูเขาน้ำแข็งนั้นเป็นสภาพปกติตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง เนื่องจากปกติภูเขาน้ำแข็งจะละลายในลักษณะค่อยๆ บางลง และแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในที่สุด แต่อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ทำให้รอบนอกของภูเขาน้ำแข็งละลายมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดภูเขาน้ำแข็งอยู่ในลักษณะเรียวสูง และทำให้มีโอกาสจะพลิกตัว 90 องศาเพิ่มมากขึ้น
ผศ.เบอร์ตัน ยังกล่าวอีกว่า การพลิกตัวของภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่นี้ สามารถก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ รวมไปถึงแผ่นดินไหวขนาด 5.0 แมกนิจูด ที่สามารถรู้สึกไปไกลได้หลายพันกิโลเมตร ซึ่งถ้าย้อนไปในยุคทศวรรษ 90 ก็เคยเกิดการพลิกตัวของผู้เขาน้ำแข็งในกรีนแลนด์ จนเกิดคลื่นสึนามิซัดทำลายหมู่บ้านในพื้นที่ใกล้เคียงเสียหายเป็นอย่างมากมาแล้ว
การพลิกของภูเขาน้ำแข็งนั้นเป็นสภาพปกติตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง เนื่องจากปกติภูเขาน้ำแข็งจะละลายในลักษณะค่อยๆ บางลง และแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในที่สุด แต่อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ทำให้รอบนอกของภูเขาน้ำแข็งละลายมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดภูเขาน้ำแข็งอยู่ในลักษณะเรียวสูง และทำให้มีโอกาสจะพลิกตัว 90 องศาเพิ่มมากขึ้น
ผศ.เบอร์ตัน ยังกล่าวอีกว่า การพลิกตัวของภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่นี้ สามารถก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ รวมไปถึงแผ่นดินไหวขนาด 5.0 แมกนิจูด ที่สามารถรู้สึกไปไกลได้หลายพันกิโลเมตร ซึ่งถ้าย้อนไปในยุคทศวรรษ 90 ก็เคยเกิดการพลิกตัวของผู้เขาน้ำแข็งในกรีนแลนด์ จนเกิดคลื่นสึนามิซัดทำลายหมู่บ้านในพื้นที่ใกล้เคียงเสียหายเป็นอย่างมากมาแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น: