เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีร้านข้าวแกงราคาถูกจานละ 10 บาท บริเวณถนนโคกขัน ตำบลทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง จึงเดินทางไปตรวจสอบ
โดยบริเวณร้านดังกล่าวตั้งอยู่เลขที่ เลขที่ 38/2 ถนนโคกขัน
ภายในร้านพบนางกิ้มแจ๋ว แซ่อุ้ย อายุ 59 ปี และนางสาวปิยนุช
เรืองดิษฐ์ อายุ 42 ปี สองแม่ลูก ช่วยกันเปิดร้านขายข้าวแกง
โดยมีลูกค้าให้ความสนใจมาอุดหนุนอย่างเนืองแน่นทุกวัน และจะขายหมดแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากเปิดร้านตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป
ซึ่งทั้งสองแม่ลูกได้เปิดร้านขายข้าวแกงดังกล่าวมาเกือบ 20 ปีแล้ว
จึงมีทั้งลูกค้าประจำ และลูกค้าขาจรทุกระดับ ตั้งแต่ระดับหมอ พยาบาล ข้าราชการ
จนถึงประชาชนทั่วไป
นางสาวปิยนุช กล่าวว่า ทุกวันนี้ตนยังคงขายแกงในราคาถุงละ 10 บาท ขณะที่ข้าวราดแกง 2 อย่าง ก็ขายในราคาจานละ 10 บาทเช่นกัน ส่วนที่เหลือ เช่น ข้าวเปล่า ขายจานละ 5-10 บาท โจ๊กหมู ขายถ้วยละ 7 บาท แต่ถ้าใส่ไข่จะขาย 12 บาท สำหรับชาร้อน กาแฟร้อน โอวัลตินร้อน ขายแก้วละ 8 บาท ยกเว้นชาเย็น กาแฟเย็น โอวัลตินเย็น จะขายแก้วละ 10 บาท โดยกับข้าวที่ทำทุกวันจะมีประมาณ 5 อย่าง ทั้งแกงเผ็ดและต้มจืด ซึ่งได้ยืนหยัดขายราคาเดิมมาโดยตลอด ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะย่ำแย่ขนาดไหน
ส่วนเหตุผลที่ไม่เคยปรับขึ้นราคาข้าวแกงเลยนั้น นางสาวปิยนุช กล่าวว่า เป็นเพราะขายในราคานี้ก็พอมีกำไร พออยู่ได้ พอมีพอกินแล้ว ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง อีกอย่างตนและแม่ไม่ได้มีภาระอะไรมากมาย บ้านไม่เช่า ไม่เป็นหนี้ และตนก็มีงานประจำคือ เป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งนิติกร อยู่ที่สำนักงานอัยการจังหวัดตรัง จึงมีเงินเดือนอีกทางหนึ่ง ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ส่วนกำไรที่ได้มาจากการขายข้าวแกง วันละ 1,000-1,500 บาท ตนจะยกให้พ่อและแม่เก็บไว้ใช้ทั้งหมด
สำหรับครอบครัวนี้ นอกจากนางสาวปิยนุช แล้ว ยังมีน้องชายอีก 1 คน
ซึ่งปัจจุบันแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ส่วนนางสาวปิยนุช ที่ยังคงครองโสดอยู่นั้น
ได้จบปริญญาตรี 2 ใบ จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และยังจบเนติบัญฑิตไทยอีกด้วย
ซึ่งกำลังเตรียมตัวสอบเข้ารับราชการอัยการต่อไป ดังนั้น
ตนจึงตั้งใจที่จะขายข้าวแกงให้มีถูกกว่าที่อื่น และจะไม่มีการปรับขึ้นราคาตลอดไป
เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้มีสุข ด้วยการกินอาหารดี รสชาติดี และมีคุณภาพ
ไม่มีความคิดเห็น: