Slider[Style1]

Style2

Style3[OneLeft]

Style3[OneRight]

Style4

Style5[ImagesOnly]

Style6



น้ำผึ้ง (Honey) เป็นอาหารยอดนิยมชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย และด้วยความนิยมอย่างสูงและมีราคาแพงนี่เองจึงทำให้มีผู้ทำน้ำผึ้งปลอมหรือน้ำผึ้งผสมออกมาขายมากมาย จนผู้บริโภคขาดความมั่นใจในการซื้อน้ำผึ้ง ยิ่งผู้ซื้อที่ขาดความรู้ในวิธีการทดสอบน้ำผึ้งด้วยแล้ว แทบจะเลิกกินน้ำผึ้งกันไปเลย วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้และวิธีดูน้ำผึ้งแท้มาให้ท่านได้ใช้งานกันแล้วครับ ^ ^

วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้ มีวิธีทำอย่างไรบ้าง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้นั้นมีวิธีการทดสอบกันมากมายหลายวิธี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับท่านว่าสามารถทดสอบวิธีไหนได้บ้าง ดังนี้

น้ำผึ้งแท้ได้มาจากน้ำหวานจากเกสรดอกไม้

1. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการติดไฟ
วิธีทดสอบนี้ทำได้โดยนำไม่ขีดไฟมาจุ่มลงในน้ำผึ้ง แล้วเอามาขีดกับข้างกล่อง (ข้างกลัก) ไม้ขีด ถ้าสามารถขีดติดไฟได้ แสดงว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ แต่ถ้าขีดไม่ติด หัวไม้ขีดไฟเปื่อยยุ่ยแสดงว่าเป็นน้ำผึ้งปลอม หรือน้ำผึ้งผสมน้ำตาล

2. การทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการหยดบนกระดาษทิชชู่
วิธีเช็คน้ำผึ้งด้วยวิธีนี้ ทำได้โดยการนำน้ำผึ้งที่ต้องการทดสอบหยดลงบนกระดาษทิชชู่ ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้เมื่อหยดแล้วน้ำผึ้งนั้นจะคงรูปอยู่บนผิวทิชชู่ ไม่ซึมลงไปในเยื่อกระดาษ แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งปลอมหรือผสม น้ำผึ้งจะซึมลงกระดาษทิชชู่ทันทีที่หยดลงไป

3. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้ด้วยปูนแดง
วิธีนี้เป็นการทดสอบน้ำผึ้งด้วยด้วยปูนแดงหรือปูนกินหมาก วิธีการก็คือ เทน้ำผึ้งลงในฝ่ามือจากนั้นเทปูนแดงตามลงไป จากนั้นคนให้เข้ากัน ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้จะรู้สึกร้อนที่ฝ่ามือทันที แต่ถ้าเป็นของปลอมจะไม่รู้สึกอะไรเลย

4. การทดสอบน้ำผึ้งด้วยการดม
วิธีตรวจสอบน้ำผึ้งแท้แบบนี้จะใช้วิธีการดม ซึ่งน้ำผึ้งแท้จะมีกลิ่นเฉพาะตัว คือมีกลิ่นหอมของน้ำหวานดอกไม้ผสมกับกลิ่นของรวงและไขมันผึ้งชัดเจน ในขณะที่น้ำผึ้งผสมหรือน้ำผึ้งปลอมจะมีกลิ่นน้อยมากหรือไม่มีเลย

5. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการแช่ตู้เย็น
วิธีการดูน้ำผึ้งแท้แบบนี้ทดสอบได้ง่ายมาก เพียงนำน้ำผึ้งไปใส่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้จะไม่จับตัวแข็งเป็นก้อน แต่จะมีรูปร่างลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ ในขณะที่ของปลอมจะจับตัวแข็งเหมือนนำน้ำหรือน้ำเชื่อมไปแช่นั่นเอง


น้ำผึ้งบรรจุขวดวางขายในประเทศสหรัฐอเมริกา

6. การทดสอบน้ำผึ้งโดยการเก็บ
น้ำผึ้งแท้นั้นเมื่อถูกเก็บไว้นานๆจะมีสีคล้ำขึ้น แต่รสชาติและลักษณะอื่นจะยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ในขณะที่ของปลอมจะเกิดการแยกชั้นของน้ำผึ้งและน้ำตาลอย่างชัดเจน กลิ่น สีและรสชาติก็เปลี่ยนไปด้วย การทดสอบน้ำผึ้งแท้วิธีนี้ทำได้ง่ายมาก

7. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการเขย่า
วิธีนี้นิยมใช้ทดสอบน้ำผึ้งที่ใส่ขวดขาย ให้จับขวดให้แน่นและเขย่าอย่างแรงหลายๆครั้ง ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้ซึ่งมีความหนืดสูง จะเกิดฟองอากาศขนาดใหญ่และไม่เกิดการแยกชั้นของของเหลวในขวด ในขณะที่น้ำผึ้งผสมหรือน้ำผึ้งปลอมจะเกิดฟองอากาศขนาดเล็กและเกิดการแยกชั้นของน้ำผึ้งและน้ำตาล

8. การทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการชิม
วิธีการตรวจสอบน้ำผึ้งแบบนี้จะเห็นผลชัดเจนเวลาเราเหนื่อยหรืออ่อนเพลีย ให้กินน้ำผึ้งประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ เมื่อผ่านไปประมาณ 20 นาที ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้ เราจะรู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย มีแรง หายอ่อนเพลีย แต่ถ้าเป็นของปลอมเราจะไม่รู้สึกเช่นนี้เลย

9. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการหยดลงในน้ำเย็น
วิธีดูน้ำผึ้งแท้แบบนี้ทำได้ไม่ยาก เพียงนำน้ำเย็นจากตู้เย็นมาใส่แก้ว จากนั้นหยดน้ำผึ้งลงไป ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้ หยดน้ำผึ้งนั้นจะจับตัวเป็นหยดและตกลงไปยังก้นแก้วก่อนจะค่อยๆลอยกลับขึ้นมา แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งผสมหรือน้ำผึ้งปลอม เมื่อหยดลงในน้ำเย็นก็จะเกิดการแตกตัวหรือแตกกระจายในน้ำทันที

10. การทดสอบน้ำผึ้งแท้ด้วยลักษณะทางกายภาพ
วิธีการดูน้ำผึ้งแท้วิธีนี้ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ น้ำผึ้งแท้จะมีสีใส มีความหนืดสูง ไหลช้าไม่ว่าจะอากาศร้อนหรือหนาว มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม

11. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้ด้วยห้องทดลอง
วิธีนี้ชาวบ้านอย่างเราๆคงไม่ได้ใช้ แต่จะใช้กับหน่วยงานของรัฐที่ให้การรับรองน้ำผึ้งแท้ วิธีนี้จะใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบของน้ำผึ้งโดยละเอียด ซึ่งจะทราบผลได้ 100% ว่าเป็นน้ำผึ้งแท้หรือไม่




วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้ที่แม่นยำและน่าเชื่อถือที่สุดก็คือการวิเคราะห์ผลจากห้องทดลอง แต่สำหรับผู้ที่ไม่รู้จะทดสอบน้ำผึ้งแท้อย่างไร อาจจะเพราะไม่มีอุปกรณ์หรือไม่มีเวลาทดสอบ ก็ให้เลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ยี่ห้อต่างๆที่มีขายตามท้องตลาด จะมั่นใจได้มากกว่าการซื้อน้ำผึ้งที่มีขายกันตามข้างทางครับ ^ ^


About เว็บไซด์

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
«
Next
บทความใหม่กว่า
»
Previous
บทความที่เก่ากว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

Post a Comment