สารอาหารถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการไปจนถึงการทำงานของระบบประสาทและสมองที่ดี
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าการรับประทานอาหารที่ถูกต้องและครบถ้วนตามหลักโภชนาการย่อมนำมาซึ่งสมองอันชาญฉลาด
รวมไปถึงระบบความคิด การเรียนรู้ และการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ
มาดูกันเลยดีกว่าว่าสาร อาหารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองมีอะไรบ้าง
กลุ่มสารอาหารเพื่อพัฒนาการของสมอง (Brain development agents)
หากเอ่ยถึงสารอาหารที่เน้นพัฒนาการของสมองในเด็กวัยแรกเกิดไปจนถึงวัยรุ่นสำหรับเด็กเล็กนั้น อาหารที่ดีที่สุดก็คือ นมแม่ เนื่องจากนมแม่มีปริมาณสารอาหารทุกอย่างครบถ้วนเพื่อช่วยในพัฒนาการของลูกน้อย ในกรณีที่คุณแม่ไม่มีน้ำนม การใช้นมผงจึงเป็นตัวเลือกรองลงมา โดยคุณแม่ควรเลือก ผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ และสิ่งสำคัญคือ นมผงควรมีการเติมสารอาหารบางอย่างที่ไม่สามารถพบได้ในนมวัวปกติแต่มีความสำคัญอย่างมากต่อลูกน้อยได้แก่
กลุ่มสารอาหารเพื่อพัฒนาการของสมอง (Brain development agents)
หากเอ่ยถึงสารอาหารที่เน้นพัฒนาการของสมองในเด็กวัยแรกเกิดไปจนถึงวัยรุ่นสำหรับเด็กเล็กนั้น อาหารที่ดีที่สุดก็คือ นมแม่ เนื่องจากนมแม่มีปริมาณสารอาหารทุกอย่างครบถ้วนเพื่อช่วยในพัฒนาการของลูกน้อย ในกรณีที่คุณแม่ไม่มีน้ำนม การใช้นมผงจึงเป็นตัวเลือกรองลงมา โดยคุณแม่ควรเลือก ผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ และสิ่งสำคัญคือ นมผงควรมีการเติมสารอาหารบางอย่างที่ไม่สามารถพบได้ในนมวัวปกติแต่มีความสำคัญอย่างมากต่อลูกน้อยได้แก่
- ดีเอชเอ (DHA:
Docosahexaenoic acid)
เป็นกรดไขมันจำเป็นชนิดหนึ่งในกลุ่มของ Omega-3
ประกอบด้วย Fatty acid ที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการ
ของระบบประสาทและการมองเห็น โดยเฉพาะทารกช่วง6 เดือนแรก จำเป็นต้องได้รับ DHA อย่างเพียงพอเพื่อสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท ช่วยส่งเสริมการทำงานของ
ระบบประสาทและสมองที่ดี
ขนาดรับประทานที่แนะนำ 250-500 มก./วัน - กรดโฟลิก (Folic
acid) วิตามินบีชนิดหนึ่ง
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์เซลล์
เกิดใหม่รวมไปถึงเซลล์ประสาทชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ
หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับกรดโฟลิกในปริมาณที่เพียงพอ
เพื่อป้องกันอาการพิการทางสมองในเด็กแรกเกิด
ขนาดรับประทานที่แนะนำ 800 มคก./วัน - ทอรีน (Taurine)
เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง พบมากในบริเวณเนื้อสมอง
โดยเฉพาะสมองส่วนหน้าและจอประสาทตา มีบทบาท
สำคัญต่อพัฒนาการของอวัยวะต่างๆของเด็ก รวมถึงสมอง (Brain formation) ช่วยบำรุงสมอง การเรียนรู้
สติปัญญา และการมองเห็นในเด็ก
ขนาดรับประทานที่แนะนำ 500 มก./วัน
สารอาหารทั้ง 3 ที่กล่าวมานี้ โดยปกติจะพบในน้ำนมวัว แต่มีปริมาณน้อย ด้วยเหตุนี้คุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจกับฉลากนมผงที่ข้างขวด
สำหรับเด็กโตในวัยเรียน หรือผู้ใหญ่การรับประทานสารอาหารเหล่านี้เสริมไป กับอาหารมื้อหลัก จัดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการเสริมสร้าง
ซ่อมแซม และบำรุงระบบประสาทที่ย่อมเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา
ไม่มีความคิดเห็น: